ผลกระทบของการไม่ทิ้งขยะให้เป็นที่
สาเหตุเและที่มาของขยะ!
เกิดจากความมักง่ายและขาดจิตสำนึก ถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้น เป็นสาเหตุที่พบบ่อยมาก
ซึ่งจะเห็นได้จากการทิ้งขยะลงตามพื้นหรือแหล่งน้ำโดยไม่ทิ้งลงในถังรองรับที่จัดไว้ให้
หรือแม้กระทั่งการซื้อของการใช้สิ่งของของนักเรียนเช่น ขนม กระดาษ แก้วน้ำ ขวดน้ำ
โดยใส่ถุงพลาสติกหลายๆถุง ทำให้มีขยะเพิ่มในปริมาณมาก
ในปัจจุบัน!
ใครหลายๆคนอาจจะเคยชินกับการทิ้งขยะเรี่ยราดไม่เป็นที่เป็นทาง
ไม่ว่าจะเป็นที่สวนสาธารณะ ถนน ที่ทำงาน หรือแม้กระทั่งโรงเรียน
โดยเฉพาะโรงเรียน ต้องมีบ้างล่ะ ถังขยะ! แต่นักเรียนส่วนใหญ่ก็มองข้ามถังขยะไม่ยอมทิ้งลงถัง
มีแต่ความมักง่ายที่ชอบซุกขยะไว้บริเวณรอบๆที่ตนเองอยู่ตรงนั้น เช่น โต๊ะหินอ่อน
โต๊ะนักเรียน บนพื้น ท่อระบายน้ำ หรือแม้แต่ต้นไม้ที่เป็นซอกเป็นรูก็ยังทิ้งไปได้
มีแต่นักเรียนส่วนน้อยและคุณครูที่เห็นว่าการทิ้งขยะไม่ถูกที่ทำให้โรงเรียนไม่สะอาด
ดูไม่งามตา และคุณครูทุกๆคน ก็สั่งสอนลูกของตนให้มีความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย
และมีความรักษาความสะอาดอยู่แล้ว ก็มีการจัดเวรทำความสะอาดอยู่ทุกวัน
แต่มันการกำจัดเพียงพอบรรเทาไม่ให้ขยะมันมากเกินไป เพราะคนทิ้งมากกว่าคนเก็บ เพราะฉะนั้นทุกคนควรมีความฉุกคิดในเรื่องของภัยขยะที่ตามมา
เช่น เกิดมลพิษ โรงเรียนหรือที่ต่างๆไม่สะอาดและไม่น่าอยู่ ถ้ามีคนอยู่ประมาณ 2000 คน ถ้าทิ้งขยะคนละชิ้น ก็จะมีขยะเพิ่มในโรงเรียน 2000 ชิ้น แต่ถ้าเก็บขยะลงถังคนละชิ้น ก็จะมีขยะในโรงเรียนลดลง 2000 ชิ้น คิดดูเอาเองว่าจะเลือกมีโรงเรียนที่แต่ขยะเต็มไปหมด
หรือโรงเรียนที่ไม่ขยะ ถึงมีแต่ก็น้อยที่สุด
โรงเรียนที่มีขยะ
โรงเรียนที่ไม่มีขยะเรี่ยราดบนพื้น และมีการคัดแยกขยะที่สามารกรีไซเคิลได้
และนำไปขายสร้างรายได้
การป้องกันและควบคุมการเพิ่มขึ้นของปริมาณขยะที่สําคัญ
คือ การลดขยะที่แหล่งกําเนิด (Source reduction) โดยอาศัยขบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจําวัน
การลดปริมาณขยะจะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะตั้งแต่การเก็บรวบรวม ขนส่ง
การคัดแยกและใช้ประโยชน์ ตลอดจนการกําจัดขั้นสุดท้าย ลดปัญหาสภาวะสิ่งแวดล้อม
และประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ โดยทั่วไปแล้วหน่วยงานองค์กรและชุมชน
สามารถลดปริมาณขยะที่จะเกิดขึ้นได้ ก่อนจะทิ้งขยะ
หยุดคิดสักนิดว่าเราจะสามารถลดปริมาณขยะและนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ได้ไหม
การกำจัดขยะด้วยแนวคิด 7R
แนวคิดด้านการจัดการขยะเพื่อการปรับตัวต่อภาวะโลกร้อน
คือก่อนจะทิ้งขยะควรหยุดคิดสักนิดว่าจะสามารถลดปริมาณขยะ
หรือนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ แนวคิดที่น่าสนใจคือแนวคิด 7R ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1. Rethink ( คิดใหม่ )
เป็นการเปลี่ยนความคิดเรื่องการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างถูกต้องเหมาะสมไม่ได้ทำตามกระแสแต่อย่างเดียว แต่ทำจากใจหรือจากจิตสำนึกที่ดี เช่น
–
การซื้อสินค้าที่ผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
2. Reduce ( ลดการใช้ )
เป็นการลดใช้ทรัพยากรให้เหลือเท่าที่จำเป็นหรือนำมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เช่น
–
ใช้ถุงผ้าหรือตะกร้าหวายเลิกง้อถุงพลาสติก
–
ใช้กล่องข้าวหรือปิ่นโตลดการใช้โฟม
–
ใช้แก้วน้ำส่วนตัวงดใช้แก้วที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง
–
พยายามอย่าใช้กระดาษสิ้นเปลือง
ควรพิมพ์และถ่ายเอกสารเท่าที่จำเป็น จะช่วยลดการตัดต้นไม้และลดพลังงานในการผลิตได้
–
ลดเว้นขอบกระดาษลงจากมาตรฐาน เช่น การลดขอบเอกสารด้านซ้ายจาก 3.175 ซม. เป็น 2.5 ซม. และขอบขวาจาก 3.175 ซม. เป็น 1.25 ซม.สามารถใช้พื้นที่กระดาษเพิ่มได้มากขึ้นถึง 27%
–
ลองลดปริมาณน้ำในถังชักโครก
ด้วยการใส่ก้อนอิฐหรือขวดน้ำไปแทนที่น้ำ
–
ปิดน้ำเสมอเมื่อเลิกใช้งาน
ร่วมกันสอดส่องไม่ให้น้ำเปิดไหลทิ้งก่อนจะออกจากห้องน้ำ
–
รินน้ำดื่มให้พอดี
และดื่มให้หมดทุกครั้ง หากดื่มน้ำเหลือนำมาใช้รดน้ำต้นไม้ หรือรวบรวมเพื่อทำความสะอาดสิ่งต่างๆ
–
ใช้แก้วน้ำตอนแปรงฟันและล้างหน้า
เนื่องจากการแปรงฟันโดยใช้น้ำจากแก้ว…จะใช้น้ำเพียง 0.5 – 1 ลิตร
แต่หากปล่อยน้ำไหลออกจากก๊อกตลอดเวลาจะใช้น้ำถึง 20-30 ลิตร
–
เลือกใช้ฝักบัวอาบน้ำและปิดน้ำในขณะที่ถูสบู่…จะใช้น้ำเพียง 30
ลิตร หากไม่ปิดอาจใช้ถึง 90 ลิตร แต่ถ้าใช้อ่างอาบน้ำต้องใช้น้ำถึง 110 – 200 ลิตร เลยทีเดียว
–
ล้างผักและผลไม้ในอ่างหรือภาชนะที่มีการกักเก็บน้ำเพียงพอดีกว่าล้างโดยตรงจากก๊อก
ประหยัดน้ำได้มากกว่า 50%
–
ทานอาหารให้เต็มอิ่ม แต่อย่าเหลือทิ้ง อย่าเหลือขว้าง เพราะกว่าจะเป็นอาหาร ต้องใช้พลังงานในการผลิตนะครับ
–
สนับสนุนการซื้อสินค้าในท้องถิ่นช่วยลดเชื้อเพลงในการขนส่งและช่วยพ่อค้าแม่ค้า แถวบ้านให้มีงานทำ
3. Reuse ( ใช้ซ้ำ )
เป็นการนำกลับมาใช้ใหม่
หรือใช้อีกครั้ง หรือหลายๆครั้ง เช่น
–
แยกประเภทกระดาษที่ใช้แล้วเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่อย่างเหมาะสมกระดาษดีนำมาใช้พิมพ์ใหม่เป็นกระดาษ
2 หน้าสำหรับเอกสารร่าง
กระดาษยับนำมาตัดเป็นกระดาษโน้ต
กระดาษ 2 หน้าทำเป็นถุงใส่ของ
–
บริจาคสิ่งของที่เลิกใช้แล้วแต่มีสภาพดีให้กับผู้ที่ขาดแคลน
–
ประกวดนวัตกรรมนำขยะกลับมาใช้ซ้ำ
เช่น การนำกระดาษมาเป็นซองใส่ยา ฯลฯ
–
ใช้ถุงพลาสติกซ้ำหลายๆครั้งตามสภาพความเหมาะสม
4. Recycle ( นำกลับมาใช้ใหม่ )
เป็นการนำวัสดุที่หมดที่หมดสภาพแล้วหรือที่ใช้แล้วมาแปรสภาพด้วยกระบวนการต่าง
ๆ เพื่อนำกลับมาใช้หรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น
–
คิดก่อนทิ้งว่าขยะช่วยกันแยกประเภทขยะเพื่อให้ได้ขยะรีไซเคิลมากที่สุดและเพื่อช่วยลดขั้นตอนและลดพลังงานในการกำจัดขยะ เนื่องจากขยะแต่ละชนิดมีวิธีการกำจัดที่ไม่เหมือนกัน
–
สร้างธนาคารขยะที่ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน เพื่อการหมุนเวียนทรัพยากรกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
–
คัดแยกขยะประเภทกระดาษ แก้ว โลหะเพื่อการนำกลับไปรีไซเคิลได้ไม่รู้จบ
–
คัดแยกขยะประเภทกล่องนมเพื่อบริจาคนำไปผลิตแผ่นกรีนบอร์ด
5. Repair ( ซ่อมแซม )
เป็นการซ่อมแซมให้ใช้การได้ใหม่ เช่น
–
กระป๋องพลาสติก
ที่แตกร้าวหรือเป็นรูใช้กาวประสานหรืออุดรูเหล่านั้นมันก็ยังใช้ได้เหมือนเดิมทำให้อายุการใช้งานนานขึ้น
การกลายเป็นขยะก็ยืดเวลาออกไป
6. Reject ( ปฏิเสธ )
เป็นการปฏิเสธการใช้ทรัพยากรแบบครั้งเดียวทิ้งหรือหารนำเข้าจากแดนไกล หรือการปฏิเสธใช้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำลายโลก เช่น พลาสติก
กล่องโฟมบรรจุอาหาร
7. Return ( ตอบแทน )
เป็นการตอบแทนสิ่งที่พวกเราได้ทำลายไปคืนสู่โลก
เช่น
– ปลูกต้นไม้กันเยอะ ๆ
เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวคืนแก่โลก ช่วยโลกสดใส ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ลดปัญหาโลกร้อน




ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น